ออสเตรเลีย การจ้างงานลดติดต่อกันสองเดือน พร้อมหลายสัญญาณเศรษฐกิจชะลอ

ตัวเลขจ้างงานออสเตรเลียเดือนมกราคมลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง อัตราว่างงาน 3.7% สูงสุดในรอบ 7 เดือนนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 บวกกับมีสัญญาณอื่น ๆ ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัว

ข่าวเศรษฐศาสตร์ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (Australian Bureau of Statistics : ABS) เปิดเผยสถิติการจ้างงานในประเทศออสเตรเลียว่า การจ้างงานลดลงประมาณ 11,000 คน และจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 22,000 คน อัตราการว่างงาน (หลังปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว) เพิ่มขึ้นเป็น 3.7% อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน นับตั้งแต่อัตรา 3.9% เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้น ธนาคารกลางออสเตรเลีย (Reserve Bank of Australia: RBA) เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากที่อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดย RBA ขึ้นดอกเบี้ยแล้วติดต่อกันเก้าครั้ง บียอร์น จาร์วิส (Bjorn Jarvis) ผู้บริหารสูงสุดของสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลียให้ข้อมูลว่า การจ้างงานในมกราคม 2566 (หลังปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว) ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน หลังจากที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2565 อัตราการจ้างงานต่อจำนวนประชากรลดลงจาก 64.2% ในเดือนธันวาคม 2565 เป็น 64.0% ในเดือนมกราคม 2566 แต่ยังสูงกว่าเดือนมกราคม 2565 ซึ่งอยู่ที่ 63.5% และสูงกว่าเดือนมีนาคม 2563 (เดือนสุดท้ายก่อนโควิด-19 ระบาด) ซึ่งอยู่ที่ 62.4% นอกจากจำนวนผู้ว่างงานในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติแล้ว จำนวนผู้ว่างงานในเดือนมกราคมแต่มีงานทำในอนาคตก็เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติเช่นกัน จาร์วิสบอกว่า เดือนมกราคมถือเป็นช่วงเวลาที่ตลาดแรงงานออสเตรเลียมีความผันผวนตามฤดูกาลมากที่สุดของปี ผู้คนออกจากงาน แต่ยังพร้อมที่จะเริ่มงานใหม่ หรือกลับมาทำงานหลังจากลาพัก ซึ่งในเดือนมกราคมปีนี้มีคนจำนวนมากกว่าปกติที่บอกว่ากำลังจะเริ่มงานใหม่ หรือกลับไปทำงานในเดือนถัดไป

ออสเตรเลีย 7

อัตราการมีส่วนร่วมของวัยกำลังแรงงาน (participation rate คืออัตราการทำงานและการหางานทำของคนในวัยกำลังแรงงาน) หลังปรับฤดูกาลแล้ว ในเดือนมกราคม 2566 ลดลงเป็น 66.5% จาก 66.6% ในเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นการลดลงจากระดับสูงสุด 66.8% ในช่วงกลางปี ​​2565

ข่าวเศรษฐศาสตร์  ส่วนชั่วโมงการทำงานรายเดือน (หลังปรับผลของฤดูกาล) ลดลง 2.1% ซึ่งสะท้อนว่ามีคนที่ลาหยุดประจำปีในเดือนมกราคมสูงกว่าปกติ โดยปกติแล้ว ช่วงต้นเดือนมกราคมเป็นช่วงที่คนลาหยุดประจำปีมากที่สุด ในปี 2564 และ 2565 ก็เป็นเช่นนั้น และในเดือนมกราคม 2566 ก็มีคนลาหยุดประจำปีมากกว่าปกติอีกครั้ง โดยประมาณ 43% ของคนมีงานทำมีชั่วโมงทำงานลดลง หรือไม่มีชั่วโมงทำงานเลย ซึ่งเป็นสัดส่วนมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่อยู่ที่ 41% สำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลียบอกอีกว่า อัตราการทำงานต่ำกว่าระดับ หรือการว่างงานแฝง (underemployment rate) หลังปรับผลของฤดูกาลแล้ว ยังคงอยู่ที่ 6.1% ต่ำกว่าเดือนมกราคม 2565 ที่อัตราอยู่ที่ 6.5% ส่วนแนวโน้มการจ้างงานในเดือนมกราคม 2566 เพิ่มขึ้น 11,000 คน (คิดเป็น 0.1%) และแนวโน้มชั่วโมงการทำงานรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.2% การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสำนักงานสถิติออสเตรเลียเกิดขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลียส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะดำเนินต่อไป สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า เดวิด บาสซานีส (David Bassanese) นักเศรษฐศาสตร์จาก BetaShares วิเคราะห์ว่า ตัวเลขการจ้างงานและยอดค้าปลีกที่อ่อนแอ บวกกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ตกต่ำ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอาจจะเริ่มเข้าสู่ขาลงด้วยแรงกดดันของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ด้วยเหตุนี้จึงบ่งชี้ว่า RBA อาจไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เฌอรีลล์ เมอร์ฟี (Cherelle Murphy) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคโอเชียเนียของบริษัทให้คำปรึกษา EY กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานในเดือนมกราคม ช่วยภารกิจของ RBA ในการลดอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากตลาดแรงงานไม่ได้ร้อนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง “แต่มันไม่ได้เป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานอ่อนแอ หรือว่าวันเวลาแห่งการเติบโตของค่าจ้างได้สิ้นสุดลงแล้ว” เมอร์ฟีกล่าว นอกจากนั้น มีสัญญาณอื่น ๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คือยอดขายบ้านใหม่ลดลง 12.8% ในเดือนมกราคม ทำให้ยอดขายรวมในเดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงมกราคม 2566 ลดลง 46.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทิม เรียร์ดอน (Tim Reardon) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสมาคมธุรกิจที่อยู่อาศัย ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยข้อมูลจากการสำรวจผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ใน 5 รัฐที่ใหญ่ที่สุดในประเทศว่า ยอดขายบ้านใหม่ชะงักงันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบด้านลบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาด และเขาบอกว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าตลาดมาถึงจุดต่อสุดของวัฏจักรนี้แล้วหรือยัง แม้ว่ายอดขายลดลงในทุกรัฐ แต่การปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ยอดขายลดลงอีก “หากไม่มีการปรับปรุงการเข้าถึงทางการเงิน หรือลดอัตราดอกเบี้ย กิจกรรมการก่อสร้างจะเริ่มหดตัวตั้งแต่ปลายปีนี้” เขากล่าว

แนะนำข่าวเศรษฐศาสตร์ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : UOB เผย 10 ปัจจัยหนุนประเทศในอาเซียน รับมือความผันผวนของตลาดในอนาคต

 

You may also like...