บิ๊กโจ๊ก ยันไม่หนักใจคดีค้ามนุษย์ถูกแทรกแซง ส่งเด็กเข้าคุ้มครองพยานแล้ว

บิ๊กโจ๊ก เผย คดีค้ามนุษย์ ซื้อบริการเด็กที่สุราษฎร์ธานีว่ามีการแทรกแซงคดีจริง สั่งถอนประกันผู้ต้องหาชุดแรกแล้ว ไม่หนักใจ ส่วนเด็กได้ส่งเข้าคุ้มครองพยานแล้ว ทุกคนยังเชื่อมั่นและยืนยันคำให้การ

เด็ก เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 พ.ค. 65 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการจับกุมผู้องหาซื้อบริการทางเพศเด็กและเป็นธุระจัดหาในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า กรณีคดีค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี นั้นก่อนหน้านี้ 2 เดือนเศษได้มีการสืบสวนและจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใช้บริการ ทั้งทหาร แพทย์ และลูกอดีตนักการเมือง รวม 11 ราย และจับกุมขบวนการที่เป็นเอเย่นต์ในส่วนของธุระจัดหาและค้ามนุษย์อีก 6 ราย ในส่วนของลูกชายอดีตนักการเมือง แพทย์ หรือทหาร ที่ผ่านมากลุ่มนี้จับกุมดำเนินคดี และมีความเห็นทางคดีส่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการแล้ว“เหตุที่ต้องลงมาดำเนินการอีกรอบนั้น หลังจากมีการดำเนินคดีไปแล้ว มีข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม มีการพยายามที่จะช่วยเหลือบุคคลบางส่วนในพื้นที่ มีการกดดันและทำร้ายร่างกายเด็ก รวมถึงการกดดันหัวหน้าบ้านพักหัวหน้าเด็กฯ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเด็ก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจัดเจ้าหน้าที่ลงมาดำเนินการร่วมกับตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี อีกครั้ง จากการตรวจสอบพบว่ามีการแทรกแซงกระบวนการสอบสวนจริง จึงได้มีการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงคำยืนยันของหัวหน้าบ้านพักเด็กฯ ว่ามีรองอธิบดีกรมกิจการเด็ก และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก 1 คน เข้าไปขัดขวางการสอบสวนสืบสวนในคดีนี้” ผช.ผบ.ตร.กล่าวพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินคดีนั้นได้มีการตั้งข้อกล่าวไปแล้วในความผิดฐาน 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขัดขวางสืบสวนสอบสวนคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นอัตราโทษที่หนักพอสมควร โดยในส่วนของผู้ต้องหากลุ่มแรกที่มีบางส่วนเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนมีหนังสือขออำนาจศาลเพื่อให้เพิกถอนการประกันทั้งหมด และกลับสู่เรือนจำอีกครั้ง ขณะนี้ศาล จ.สุราษฎร์ธานี อยู่ในขั้นตอนของการไต่สวน”ฉะนั้นความผิดฐานค้ามนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยทำ มีการทำมาตลอด เพียงแต่ว่าในคราวนี้ในส่วนของผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีตำแหน่งใหญ่ ซึ่งได้มีการเรียนนายกรัฐมนตรีและรองนายกฯ ประวิตรฯ รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปแล้ว

บิ๊กโจ๊ก ยันไม่หนักใจคดีค้ามนุษย์ถูกแทรกแซง

ซึ่งท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเน้นย้ำให้ดำเนินคดีอย่างชัดเจน และให้ความเป็นธรรมกับทุกส่วน

เด็ก ดังนั้นในการบังคับใช้กฎหมายไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ในส่วนไหนก็ตามมีการบังคับใช้กฎหมายเหมือนกันหมด จึงไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ” ผช.ผบ.ตร.กล่าวพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงวิธีการแทรกแซงคดีว่า คงไม่สามารถเปิดเผยให้ได้มาก แต่บอกได้เพียงคร่าวๆ ว่า มีการโทรศัพท์ไปหาหัวหน้าบ้านพักเด็กฯ ให้หยุดการดำเนินการให้เด็กไปให้การเพิ่มเติม เพื่อจะช่วยเหลือผู้ต้องหา ส่วนของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กที่ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยนั้น ได้มีการใช้ไม่ทุบตีเด็กกับมีการยื่นข้อเสนอให้เด็ก ดังนั้นตนในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการค้ามนุษย์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากไม่มีการเอาจริงเอาจัง กระบวนการค้ามนุษย์จะหมดสิ้นไปลำบาก รวมทั้งไม่มั่นใจในเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะต้องไม่ลืมว่า การปล่อยให้มีการทำร้ายเด็กในสถานที่ราชการเป็นเรื่องใหญ่ ต่อไปในอนาคตเมื่อนำเด็กมาเข้าสู่บ้านพักเด็กฯ หากไม่ดำเนินการให้ชัดเจน เด็กก็จะไม่ไว้วางใจเจ้าหน้ารัฐ และต้องไม่ลืมว่าเมื่อมีการทำร้ายร่างกายเด็กในสถานที่ราชการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็ก จึงต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงไป ไม่เช่นนั้นการทำงานทั้งหมดก็จะไม่เกิดผล สิ่งสำคัญวันนี้ไม่ใช่เรื่องการสืบสวนสอบสวนเท่ากับการรักษาบาดแผลในจิตใจของเด็ก และการเยียวยานำเด็กกลับเข้าสู้สังคม และต้องไม่ลืมว่าเด็กไม่ควรอยู่ในสถานที่นี้ แต่ควรจะต้องไปอยู่โรงเรียนอย่างไรก็ตามในส่วนของลูกอดีตนักการเมืองนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีการดำเนินคดีไปแล้วในเรื่องการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา การฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐ และข่มขืนกระทำชำเรา แต่ตนยังไม่ทราบในรายละเอียดว่าถูกดำนินคดีไปแล้วในคดีใดบ้าง ขอไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ตกเป็นเหยื่อนั้น ได้มีการนำเด็กทั้งหมดไปเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานที่กรุงเทพมหานครแล้ว ดังนั้นเด็กยังมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมอยู่ และยังยืนยันคำให้การเดิมทุกอย่าง รวมถึงพ่อแม่เด็กก็จะมีความเชื่อมั่นด้วย และขณะนี้มีการแจ้งข้อมูลเบาะแสเข้ามาเป็นจำนวนมากกรณีการโยกย้ายรองอธิบดีและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กนั้น ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า เป็นมาตรการทางวินัย มาตรการทางการปกครอง ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มองว่าทุกที่คงดำเนินการเหมือนกันหมด นิ้วไหนร้ายก็ต้องตัดออก ส่วนการตรวจสอบคงต้องให้ความเป็นธรรมกับรองอธิบดีฯ คนที่ถูกกล่าวหาด้วย ในเรื่องของคดีก็ต้องว่ากันไป ส่วนทางการปกครองเป็นเรื่องของต้นสังกัด

แนะนำเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : คลิปหลุดมูลนิธิดังทำร้ายเด็ก “ครูยุ่น” อ้างแค่ลงโทษ 

You may also like...